การตั้งขนาด Position ตามความผันผวน
การตั้งขนาด Position ตามความผันผวน
การตั้งขนาด Position ตามความผันผวน
การบริหาร Position Size เป็นหัวใจของการควบคุมความเสี่ยงในการเทรด Option โดยเฉพาะเมื่อความผันผวนของตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
หลักคิดพื้นฐาน
ยิ่งตลาดมีความผันผวนมาก → โอกาสเคลื่อนไหวของราคากว้างขึ้น → ต้องใช้ขนาด Position ที่ เล็กลง เพื่อไม่ให้โดนผลกระทบมากเกินไป
ตรงกันข้าม เมื่อตลาดนิ่ง → สามารถใช้ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อสร้างผลตอบแทนได้โดยยังอยู่ในกรอบความเสี่ยงที่ควบคุมได้
การใช้ Volatility เป็นเกณฑ์ตั้งขนาด Position
- ใช้ค่า Implied Volatility (IV) และ Historical Volatility (HV) เป็นตัวชี้วัดระดับความเสี่ยง
- หรือใช้ ATR (Average True Range) เพื่อวัดความกว้างของการเคลื่อนไหวในแต่ละวัน
กรณีถือ Long Option:
- ถ้า ATR หรือ IV เพิ่ม → ความเสี่ยงสูงขึ้น → ควรลดขนาด Position
- ถ้า ATR หรือ IV ลดลง → ความเสี่ยงลดลง → สามารถเพิ่มขนาด Position ได้ภายใต้ Risk เดิม
กรณีถือ Short Option:
- หาก ATR หรือ IV เพิ่ม → ความเสี่ยงพุ่งสูง (เพราะ Short มี Vega ลบและเสียหายจากการเหวี่ยง) → ควรลดหรืองดการเปิด Position
- หาก ATR หรือ IV ลด → เป็นช่วงที่เหมาะกับการ Short และสามารถใช้ขนาดใหญ่ขึ้นในกรอบความเสี่ยงที่ควบคุมได้
สูตรเบื้องต้นที่นิยมใช้
Position Size = Target Risk / (Volatility × Multiplier)
- Target Risk: ความเสี่ยงต่อเทรด เช่น 2% ของพอร์ต
- Volatility: ใช้ ATR หรือ Standard Deviation ของราคาหุ้น
- Multiplier: ตัวคูณเพื่อปรับให้เหมาะกับ Leverage และพฤติกรรมสินทรัพย์นั้น ๆ
ตัวอย่าง
คุณต้องการเสี่ยง 2% จากพอร์ต 100,000 บาท
หุ้น A มี ATR = 3 บาท, ค่า Multiplier = 2
→ Size = (2,000) / (3 × 2) = 333 หน่วย
→ เทรด Option ให้ไม่เกิน Premium ที่คุม exposure นี้ได้
หุ้น A มี ATR = 3 บาท, ค่า Multiplier = 2
→ Size = (2,000) / (3 × 2) = 333 หน่วย
→ เทรด Option ให้ไม่เกิน Premium ที่คุม exposure นี้ได้
แนวคิดเพิ่มเติม: Position Sizing และ Risk Control
วิธีคิดขนาด Position:
วิธี | แนวทาง | ตัวอย่าง |
---|---|---|
Fixed Vega | Fix $Vega เช่น $100/Trade | Long Option ที่มี Vega = 0.10 → ซื้อ 10 สัญญา |
Volatility Target | ให้พอร์ตมี Std Dev คงที่ | ใช้สูตรคำนวณ position เพื่อให้พอร์ตมีความผันผวน 10%/ปี |
Kelly Criterion | ใช้โอกาสชนะ/ขาดทุนคำนวณสัดส่วนลงทุน | หาก Edge = 5% และ WinRate 55% → ลง 10% ของทุน |
เหตุผลในการควบคุมความเสี่ยง:
- ไม่เปิด Short Straddle โดยไม่มี Hedge: เสี่ยงขาดทุนไม่จำกัดหากราคาเหวี่ยงรุนแรง
- อย่าเพิ่ม Position ตอน Drawdown: เพื่อหลีกเลี่ยงการ Overtrade / ล้างพอร์ตตอนผิดทาง
- ตั้ง Max Loss: เพื่อจำกัดความเสียหายต่อพอร์ตในแต่ละวัน/แต่ละ Position → ควบคุม Drawdown และรักษาสภาพจิตใจของเทรดเดอร์
สรุป
การตั้งขนาด Position ตามระดับความผันผวนช่วยให้การเทรด Option มีความยั่งยืน ลดความเสียหายจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด และปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสภาพตลาดได้อย่างยืดหยุ่น ทั้งนี้ต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับลักษณะของ Position (Long/Short) ที่ถืออยู่ด้วย