Volatility Skew และ Term Structure
Volatility Skew และ Term Structure
ในโลกของ Options เทรดเดอร์ที่เข้าใจ Volatility Skew และ Term Structure อย่างลึกซึ้งสามารถเลือกกลยุทธ์ให้เหมาะกับความคาดหวังของตลาดได้อย่างชัดเจน และสร้าง Edge ในระยะยาวได้ดีกว่าเทรดเดอร์ทั่วไป
หัวข้อนี้จะเจาะลึกความหมายของทั้ง Skew และ Term Structure พร้อมตัวอย่างการใช้งานจริงและการเชื่อมโยงกับกลยุทธ์ Option แบบต่าง ๆ อย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. Volatility Skew - การวิเคราะห์ความไม่สมมาตรของ IV ตาม Strike Price
Volatility Skew คืออะไร?
Volatility Skew คือปรากฏการณ์ที่ค่า Implied Volatility (IV) ของ Options ที่มี Strike Price ต่างกันมีค่าไม่เท่ากัน แม้จะมี Expiration เดียวกัน ซึ่งแสดงถึง “อคติ” หรือ “ความไม่สมมาตร” ของตลาดต่อการคาดการณ์ราคาของสินทรัพย์อ้างอิง
หากพิจารณาตามทฤษฎี Black-Scholes ดั้งเดิม IV ควรเท่ากันทุก Strike แต่ในโลกความเป็นจริง เราพบว่า IV มีการกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ ซึ่งสะท้อนความต้องการและความกลัวของตลาดได้เป็นอย่างดี
ในหุ้นส่วนใหญ่ Put Options ที่ Strike ต่ำกว่า (Out-of-the-Money) มักมี IV สูงกว่า Call Options → แสดงว่าตลาดมีความกลัวด้านล่างมากกว่าด้านบน
นี่เป็นผลมาจาก “Crash Risk Premium” ที่นักลงทุนยอมจ่ายแพงเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการร่วงลงอย่างรุนแรง
ประเภทของ Skew และการตีความ
1. Smile Skew (Volatility Smile)
- ลักษณะ: IV ต่ำสุดที่ ATM (At-the-Money) และสูงขึ้นทั้งฝั่ง OTM Call และ OTM Put
- การตีความ: ตลาดกำลังคาดการณ์ว่าจะมีการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
- พบในตลาด: FX (เงินตรา), Commodities (สินค้าโภคภัณฑ์), บางช่วงในตลาดหุ้นหลังวิกฤติ
- ตัวอย่าง: ในตลาด Gold Futures มักพบ Smile Skew เมื่อมีความไม่แน่นอนจากนโยบายธนาคารกลาง ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวรุนแรงได้ทั้งสองทิศทาง
2. Smirk Skew (Put Skew หรือ Negative Skew)
- ลักษณะ: OTM Put มี IV สูงกว่า OTM Call อย่างมีนัยสำคัญ
- การตีความ: ตลาดกังวลเรื่องการร่วงลงมากกว่าการปรับตัวขึ้น (Downside Risk)
- ความรุนแรงของ Skew: ยิ่งความชันสูง ยิ่งแสดงถึงความกลัวในตลาดที่มากขึ้น
- พบในตลาด: หุ้นและดัชนีหุ้นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดหวั่นวิตก
- ตัวอย่าง: S&P 500 มักมี Put Skew ชัดเจน โดยเฉพาะหลังตลาดปรับตัวขึ้นมาเร็วหรือในช่วงที่มีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจ
3. Reverse Skew (Call Skew หรือ Positive Skew)
- ลักษณะ: OTM Call มี IV สูงกว่า OTM Put
- การตีความ: ตลาดคาดการณ์โอกาสปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรง หรือกลัวการ Short Squeeze
- พบในตลาด:
- หุ้น Biotech ก่อนประกาศผล FDA
- หุ้นที่มีข่าวลือเรื่องการควบรวมกิจการ (M&A)
- หุ้นที่มี Short Interest สูง
- ตัวอย่าง: หุ้น GameStop (GME) ในช่วง Short Squeeze มี Call Skew สูงมาก เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าราคาจะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงจากการที่ผู้เล่น Short ต้องปิด Position
การวัดความรุนแรงของ Skew
นอกจากการดูกราฟโดยรวมแล้ว เราสามารถวัดความรุนแรงของ Skew ได้หลายวิธี:
Skew Ratio: อัตราส่วนระหว่าง IV ของ OTM Put กับ OTM Call ที่ระยะห่างจาก ATM เท่ากัน
Skew Ratio = IV(25 Delta Put) / IV(25 Delta Call)
- ค่า > 1 แสดงถึง Put Skew
- ค่า < 1 แสดงถึง Call Skew
- ยิ่งค่าห่างจาก 1 มาก แสดงถึงความรุนแรงของ Skew ที่มากขึ้น
Risk Reversal: ความแตกต่างของ IV ระหว่าง OTM Put และ OTM Call
Risk Reversal = IV(25 Delta Put) - IV(25 Delta Call)
- ค่าเป็นบวก = Put Skew
- ค่าเป็นลบ = Call Skew
SKEW Index: ดัชนีที่ CBOE คำนวณจาก S&P 500 options เพื่อวัด Tail Risk
- SKEW Index > 150 = ตลาดกังวลการร่วงแรงมาก
- SKEW Index < 110 = ตลาดไม่กังวลการร่วงแรง
การตีความการเปลี่ยนแปลงของ Skew
การเปลี่ยนแปลงของ Skew | การตีความ | สัญญาณทางเทคนิค |
---|---|---|
Put Skew เพิ่มขึ้นในขณะที่ราคาปรับตัวขึ้น | ตลาดเริ่มกังวลการปรับฐาน | Warning Sign |
Put Skew ลดลงหลังราคาร่วงแรง | ตลาดอาจเริ่มหมดความกลัว | Potential Bottom |
Call Skew เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว | อาจมีข่าวลือเชิงบวกหรือการ Short Squeeze | Potential Breakout |
Smile Skew เพิ่มขึ้นทั้งสองฝั่ง | คาดการณ์ความผันผวนสูงจากเหตุการณ์สำคัญ | Volatility Event |
การดู Volatility Skew จริง
สามารถดูได้จากเครื่องมือต่างๆ:
Option Chain และ Volatility Column:
- ThinkOrSwim
- Interactive Brokers
- TradeStation
เครื่องมือ Visualization:
- OptionStrat: แสดง IV ตาม Strike ในรูปแบบกราฟ
- Market Chameleon: สรุปข้อมูล IV Surface
- CBOE Livevol: กราฟ 3D ของ IV Surface
ตัวอย่างการอ่าน:
- เปรียบเทียบ IV ที่ Strike -10%, ATM, และ +10%
- ดูความชันของเส้นกราฟ IV vs Strike
- สังเกตการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง
กลยุทธ์ Options ที่เหมาะกับแต่ละ Skew
1. กลยุทธ์สำหรับ Put Skew สูง (ตลาดกลัวขาลง)
A. กลยุทธ์เก็บพรีเมียมจากความกลัว:
Short Put Vertical Spread: ขาย OTM Put ที่มี IV สูงเกินจริง และซื้อ Put ที่ต่ำกว่าเพื่อจำกัดความเสี่ยง
ตัวอย่าง: SPY ราคา 400 มี Put ที่ Strike 360 (-10%) มี IV 35% ขณะที่ Call ที่ Strike 440 (+10%) มี IV เพียง 22%
- ขาย 360 Put (Collect $3.20)
- ซื้อ 350 Put (Pay $2.10)
- Net Credit: $1.10
- ความเสี่ยง: $8.90 ($10 - $1.10)
- คาดหวังให้ IV ลดลงหรือราคาอยู่เหนือ 360 ที่หมดอายุ
B. Ratio Put Spread:
ขาย Put จำนวนมากกว่าที่ซื้อ
ตัวอย่าง: SPY ราคา 400
- ซื้อ 1 คอนแทร็กต์ 370 Put
- ขาย 2 คอนแทร็กต์ 350 Put
- ทำกำไรหากราคาลดลงแต่ไม่ลงต่ำกว่า 350 มาก
2. กลยุทธ์สำหรับ Call Skew สูง (ตลาดคาดการณ์ขาขึ้นแรง)
A. Long Call Butterfly:
ใช้ประโยชน์จาก IV ที่สูงในฝั่ง OTM Call
ตัวอย่าง: หุ้น XYZ ราคา 50 มี Call Skew สูง
- ซื้อ 1 คอนแทร็กต์ 55 Call
- ขาย 2 คอนแทร็กต์ 60 Call
- ซื้อ 1 คอนแทร็กต์ 65 Call
- ทำกำไรสูงสุดหากราคาไปที่ 60 ที่หมดอายุ
B. Diagonal Call Spread:
ซื้อ ITM Call ระยะยาว และขาย OTM Call ระยะสั้นที่มี IV สูง
ตัวอย่าง: Tesla ราคา 250
- ซื้อ 220 Call 3 เดือน
- ขาย 300 Call 1 เดือน ที่มี IV สูง
- ได้ประโยชน์จาก IV ที่สูงในฝั่ง OTM Call
3. กลยุทธ์สำหรับ Smile Skew (คาดความผันผวนทั้งสองด้าน)
A. Iron Butterfly:
ขาย ATM Straddle และซื้อ OTM Strangle เพื่อจำกัดความเสี่ยง
ตัวอย่าง: SPX ราคา 4000 มี Smile Skew
- ขาย 4000 Put
- ขาย 4000 Call
- ซื้อ 3900 Put
- ซื้อ 4100 Call
- ทำกำไรหากราคาอยู่ใกล้ 4000 ที่หมดอายุ
B. Long Strangle ปรับแต่ง:
เลือก Strike ที่ IV ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับความผันผวนที่คาดการณ์
ตัวอย่าง: SPX ราคา 4000 คาดการณ์ความผันผวนสูง
- ซื้อ Call ที่ Strike ที่มี IV ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับความผันผวนที่คาดหวัง
- ซื้อ Put ที่ Strike ที่มี IV ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับความผันผวนที่คาดหวัง
2. Volatility Term Structure - การวิเคราะห์ IV ตามช่วงเวลา
Volatility Term Structure คืออะไร?
Volatility Term Structure คือรูปแบบของ Implied Volatility (IV) ที่แตกต่างกันตามระยะเวลาหมดอายุ (Expiration Date) โดยในสภาวะตลาดปกติ Option ที่มีอายุยาวกว่ามักมี IV สูงกว่า Option ที่มีอายุสั้นกว่า
Term Structure เป็นเครื่องมือสำคัญที่บอกเราว่า “ตลาดกำลังกลัวหรือคาดหวังอะไรในแต่ละกรอบเวลา” และช่วยในการตัดสินใจเลือกระยะเวลาหมดอายุที่เหมาะสมกับกลยุทธ์การเทรด
Term Structure คือการอ่านว่า “ตลาดกำลังกลัวระยะสั้นหรือระยะยาว” โดยดูว่าความผันผวนแต่ละเดือนเรียงลำดับอย่างไร
เหมือนการดู “ยืดขยาย” ของความกลัวและความคาดหวังของตลาดในมิติของเวลา
ประเภทของ Term Structure และการตีความ
1. Normal Term Structure (Contango)
- ลักษณะ: IV สั้น < IV กลาง < IV ยาว (เส้นกราฟเป็นขาขึ้น)
- สาเหตุ: เป็นลักษณะปกติของตลาด เนื่องจากความไม่แน่นอนระยะยาวมีมากกว่าระยะสั้น
- การตีความ:
- ตลาดปกติ ไม่มีความกังวลเฉพาะหน้า
- ไม่มีเหตุการณ์สำคัญที่คาดการณ์ได้ในระยะสั้น
- ตัวอย่าง: SPX ในช่วงตลาดปกติจะมี IV ของ Option 30 วันประมาณ 15% และ Option 1 ปีประมาณ 20%
2. Inverted Term Structure (Backwardation)
- ลักษณะ: IV สั้น > IV กลาง > IV ยาว (เส้นกราฟเป็นขาลง)
- สาเหตุ:
- ความกลัวหรือความกังวลเฉพาะหน้า
- เหตุการณ์สำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
- การตีความ:
- ตลาดกำลังตื่นตระหนกหรือมีความกังวลระยะสั้น
- มักพบในช่วงวิกฤติตลาดหรือก่อนเหตุการณ์สำคัญ
- ตัวอย่าง: VIX Term Structure กลับหัวในช่วงวิกฤติ COVID-19 โดย VIX 30 วันพุ่งสูงกว่า VIX 6 เดือน
3. Flat Term Structure
- ลักษณะ: IV ใกล้เคียงกันในทุก Expiration
- สาเหตุ:
- ตลาดเงียบ ไม่มีแรงขับเคลื่อน
- ความไม่แน่นอนกระจายตัวสม่ำเสมอ
- การตีความ:
- ตลาดขาดทิศทาง
- มักเกิดระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่านของตลาด
- ตัวอย่าง: มักพบในช่วง Summer Doldrums หรือช่วงปลายปีที่ตลาดเงียบ
4. Humped Term Structure
- ลักษณะ: IV เพิ่มขึ้นแล้วลดลง (กราฟรูปโค้งคว่ำ)
- สาเหตุ:
- มีเหตุการณ์เฉพาะที่คาดการณ์ได้ในช่วงกลาง (Earnings, FDA, เลือกตั้ง)
- การตีความ:
- ตลาดคาดการณ์ความผันผวนในช่วงเวลาเฉพาะ
- ตัวอย่าง: หุ้น Biotech ที่รอผล FDA approval ในอีก 3 เดือน จะมี IV ของ Series 3 เดือนสูงกว่าทั้ง Series 1 เดือนและ Series 6 เดือน
การวัดและเปรียบเทียบ Term Structure
1. IV Ratio ระหว่างเดือน
- คำนวณ: IV(เดือนสั้น) / IV(เดือนยาว)
- การตีความ:
1.0 = Inverted (ไม่ปกติ)
- < 1.0 = Normal (ปกติ)
- ยิ่งห่างจาก 1.0 มาก ยิ่งแสดงถึงความรุนแรงของสถานการณ์
ตัวอย่าง: การคำนวณ IV Ratio ใน SPY
- IV ของ Option 30 วัน = 24%
- IV ของ Option 90 วัน = 20%
- IV Ratio = 24% / 20% = 1.2
- ตีความ: Term Structure เป็น Inverted แสดงถึงความกังวลในระยะสั้น
2. IV Spread ระหว่างเดือน
- คำนวณ: IV(เดือนยาว) - IV(เดือนสั้น)
- การตีความ:
- เป็นบวก = Normal
- เป็นลบ = Inverted
- ยิ่งค่ามาก ยิ่งแสดงถึงความชันของ Term Structure
ตัวอย่าง: การคำนวณ IV Spread
- IV ของ Option 30 วัน = 18%
- IV ของ Option 180 วัน = 22%
- IV Spread = 22% - 18% = +4%
- ตีความ: Term Structure เป็น Normal
3. Normalized IV
- คำนวณ IV ของแต่ละ Expiration เทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง
- ช่วยให้เห็นว่า IV ในแต่ละช่วงเวลาสูงหรือต่ำกว่าปกติเพียงใด
การดู Term Structure จริง
สามารถวิเคราะห์ Term Structure ได้จาก:
กราฟ IV vs DTE (Days Till Expiration):
- TradingView: ใช้ Indicator ประเภท IV Term Structure
- ThinkOrSwim: Plot historical vs current curve
จากตาราง Option Chain:
- สังเกต IV ของ ATM Option ในแต่ละเดือน
- เปรียบเทียบ IV ของแต่ละ Expiration
เว็บไซต์และเครื่องมือเฉพาะทาง:
- Ivolatility.com: Volatility Term Structure Report
- CBOE Term Structure Tool: แสดง VIX Term Structure
- Market Chameleon: IV Term Structure Analysis
กลยุทธ์ Options ที่เหมาะกับแต่ละรูปแบบ Term Structure
1. กลยุทธ์สำหรับ Normal Term Structure (IV สั้น < IV ยาว)
A. Calendar Spread:
ขาย Option ระยะยาวซึ่งมี IV สูงกว่า และซื้อ Option ระยะสั้นซึ่งมี IV ต่ำกว่า โดยใช้ Strike เดียวกัน
ตัวอย่าง: SPY ราคา 400
- ซื้อ 400 Call 1 เดือน (IV 16%)
- ขาย 400 Call 3 เดือน (IV 19%)
- ทำกำไรเมื่อ IV ของ Option 3 เดือนลดลงเร็วกว่า Option 1 เดือน หรือเมื่อกลับสู่ Normal Term Structure ที่สมดุลมากขึ้น
B. Diagonal Spread:
เหมือน Calendar แต่ใช้ Strike ต่างกัน
ตัวอย่าง:
- ซื้อ 390 Call 1 เดือน (IV 17%)
- ขาย 410 Call 3 เดือน (IV 20%)
- ได้ประโยชน์จากทั้ง IV และ Direction ของราคา
2. กลยุทธ์สำหรับ Inverted Term Structure (IV สั้น > IV ยาว)
A. Reverse Calendar Spread:
ขาย Option ระยะสั้นที่มี IV สูง และซื้อ Option ระยะยาวที่มี IV ต่ำกว่า
ตัวอย่าง: ในช่วงวิกฤติตลาด
- ขาย 350 Put 1 เดือน (IV 45%)
- ซื้อ 350 Put 3 เดือน (IV 35%)
- คาดหวังให้ IV ระยะสั้นลดลงเมื่อความกลัวคลายตัว
B. Ratio Calendar Spread:
ขาย Option ระยะสั้นจำนวนมากกว่าที่ซื้อในระยะยาว
ตัวอย่าง:
- ขาย 2 คอนแทร็กต์ 380 Put 1 เดือน (IV 40%)
- ซื้อ 1 คอนแทร็กต์ 380 Put 3 เดือน (IV 33%)
3. กลยุทธ์สำหรับ Flat Term Structure
A. Vertical Spreads:
เมื่อ IV ระหว่างเดือนไม่แตกต่างกัน ให้เน้นการเทรด Direction มากกว่า Volatility
ตัวอย่าง:
- Bull Call Spread: ซื้อ 390 Call / ขาย 410 Call
- Bear Put Spread: ซื้อ 410 Put / ขาย 390 Put
B. Iron Condor:
เหมาะเมื่อตลาดเงียบและคาดว่าจะยังคงเงียบต่อไป
ตัวอย่าง:
- ขาย 410 Call / ซื้อ 420 Call
- ขาย 390 Put / ซื้อ 380 Put
4. กลยุทธ์สำหรับ Humped Term Structure
A. Double Calendar Spread:
ใช้ประโยชน์จาก IV ที่สูงในช่วงเวลาเฉพาะ
ตัวอย่าง: หุ้น AAPL ก่อน Earnings ที่ Series ใกล้ Earnings มี IV สูงกว่า
- ขาย Calendar Spread ด้าน Call (ซื้อระยะสั้น / ขายระยะกลางที่มี IV สูง)
- ขาย Calendar Spread ด้าน Put (ซื้อระยะสั้น / ขายระยะกลางที่มี IV สูง)
- คาดหวังให้ IV Crush หลัง Earnings
B. Butterfly Spread ข้าม Series:
ซื้อ Option ใน Series ที่มี IV ต่ำกว่า และขาย Option ใน Series ที่มี IV สูงกว่า
ตัวอย่าง:
- ซื้อ 1 คอนแทร็กต์ Call 1 เดือน
- ขาย 2 คอนแทร็กต์ Call 3 เดือน (ช่วงที่มี IV พีค)
- ซื้อ 1 คอนแทร็กต์ Call 6 เดือน
ส่วนที่ 3: การประยุกต์ใช้ Skew และ Term Structure ร่วมกัน
การเข้าใจทั้ง Volatility Skew (ความต่างของ IV ตาม Strike) และ Term Structure (ความต่างของ IV ตามเวลา) ทำให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์ตลาดได้แบบ 3 มิติ และเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ได้อย่างแม่นยำ
การวิเคราะห์ 3 มิติ: Strike + Time + IV
Volatility Surface: กราฟ 3 มิติที่แสดง:
- แกน X: Strike Price
- แกน Y: Days to Expiration
- แกน Z: Implied Volatility
การตีความ Volatility Surface:
- รอยบุ๋มหรือโหนก = ความคาดหวังพิเศษในบางช่วงราคาและเวลา
- ความชันด้าน Strike = Skew
- ความชันด้านเวลา = Term Structure
การเชื่อมโยง Skew + Term Structure กับภาวะตลาด
Skew = ต่างตาม Strike
Term = ต่างตาม Expiry
การวิเคราะห์ทั้งสองปัจจัยร่วมกันให้ภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น:
Skew | Term Structure | การตีความตลาด | กลยุทธ์ที่เหมาะสม |
---|---|---|---|
Put Skew สูง | Normal | ตลาดปกติ แต่นักลงทุนกังวลการร่วงในระยะยาว | Calendar Put Spreads |
Put Skew สูงมาก | Inverted | ตลาดตื่นตระหนก (Panic) เช่น ช่วงวิกฤติ | Short-term Put Credit Spreads |
Call Skew | Normal | คาดการณ์การเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป | Long LEAPs Call, Short Front-month OTM Call |
Call Skew | Inverted ที่เดือนใกล้ | คาดข่าวดีฉับพลัน เช่น Takeover Rumors | Long OTM Calls ในเดือนที่มี IV ต่ำเมื่อเทียบกับความเป็นไปได้ |
Smile Skew | Inverted | ตลาดคาดการณ์ความผันผวนสูงในทันที | Long Straddle, Long Strangle |
Flat Skew | Flat Term | ตลาดสงบนิ่ง ไม่มีทิศทาง | Iron Condor, Butterfly |
หาก Skew กับ Term Structure ส่งสัญญาณตรงกัน เช่น Put Skew สูง + Short Term IV สูงมาก → เหมาะกับ Short Put ใน Series ใกล้หมดอายุ
ในทางกลับกัน หาก Skew กับ Term Structure ส่งสัญญาณขัดแย้งกัน อาจบ่งชี้ว่าตลาดกำลังเปลี่ยนทิศทาง
ตัวอย่างการใช้งานจริง: SPY ในช่วงวิกฤติ
สถานการณ์:
- SPY ราคา 350
- Put Skew สูงมาก (25 Delta Put IV = 45%, 25 Delta Call IV = 28%)
- Term Structure แบบ Inverted (IV 1 เดือน = 42%, IV 3 เดือน = 35%)
การวิเคราะห์:
- Put Skew สูง + Term Structure Inverted = ตลาดตื่นตระหนกอย่างรุนแรง
- IV ระยะสั้นสูงมาก = ตลาดคาดการณ์ความผันผวนในทันที
กลยุทธ์ที่เหมาะสม:
Short-term Put Credit Spread:
- ขาย 320 Put / ซื้อ 310 Put (1 เดือน)
- ได้ประโยชน์จาก IV ที่สูงเกินจริงในระยะสั้น และการที่ IV จะลดลงเมื่อตลาดคลายความกังวล
Reverse Calendar Put Spread:
- ขาย 330 Put 1 เดือน (IV 48%)
- ซื้อ 330 Put 3 เดือน (IV 36%)
- ทำกำไรเมื่อ IV ระยะสั้นลดลงเร็วกว่า IV ระยะยาว
ตัวอย่างการใช้งานจริง: AAPL ก่อน Earnings
สถานการณ์:
- AAPL ราคา 150
- Skew ค่อนข้าง Flat (25 Delta Put IV = 32%, 25 Delta Call IV = 30%)
- Term Structure แบบ Humped (IV 1 เดือน = 25%, IV 2 เดือน (มี Earnings) = 35%, IV 3 เดือน = 28%)
การวิเคราะห์:
- Skew Flat + Term Structure Humped = ตลาดคาดการณ์ความผันผวนจากเหตุการณ์เฉพาะ (Earnings)
- IV สูงสุดในเดือนที่มี Earnings = Premium สูงเกินจริงในเดือนนั้น
กลยุทธ์ที่เหมาะสม:
Double Calendar Spread:
- ซื้อ 150 Call 1 เดือน และ 150 Put 1 เดือน
- ขาย 150 Call 2 เดือน และ 150 Put 2 เดือน (ที่มี IV สูงจาก Earnings)
- คาดหวัง IV Crush หลัง Earnings
Short Iron Condor ในเดือน Earnings:
- ขาย 160 Call / ซื้อ 165 Call
- ขาย 140 Put / ซื้อ 135 Put
- ได้ประโยชน์จาก IV ที่สูงในเดือนที่มี Earnings
ข้อจำกัดและข้อควรระวังในการใช้ Skew และ Term Structure
IV ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ทิศทางราคา:
- Skew สูงในฝั่ง Put ไม่ได้หมายความว่าราคาจะลงเสมอไป
- Term Structure Inverted ไม่ได้บ่งชี้ว่าตลาดจะร่วงต่อไป
ไม่ควรใช้เป็นสัญญาณซื้อขายโดยตรง:
- Skew และ Term Structure เป็นเครื่องมือในการเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสม ไม่ใช่สัญญาณซื้อขาย
ระวังค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรม:
- กลยุทธ์ซับซ้อนอาจมีค่า Spread, Commission สูง
- บาง Position ต้องการ Margin สูง
ความสัมพันธ์ไม่เป็นเชิงเส้นตรง:
- การเปลี่ยนแปลงของ IV ตาม Strike และเวลาไม่ได้เป็นเชิงเส้นตรงเสมอไป
- อาจมีจุดที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะ (Irregularities)
สรุป
Volatility Skew และ Term Structure คือสองเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์พฤติกรรมตลาดที่ลึกกว่าการดู IV อย่างเดียว การเข้าใจ Skew และ Term Structure ช่วยให้เราสามารถ:
- อ่านความคาดหวังของตลาด - ทั้งแนวราคา (Skew) และกรอบเวลา (Term)
- เลือกกลยุทธ์ที่มี Edge - โดยเลือกฝั่งที่ IV สมเหตุสมผลและหลีกเลี่ยงฝั่งที่ IV แพงเกินไป
- หาโอกาสในการเก็บ Premium - จากฝั่งที่ IV ถูกบวก “Fear Premium” จนสูงเกินไป
- ออกแบบ Position ที่เหมาะกับเหตุการณ์ - เช่น Earnings, FDA, Economic Events
Volatility Landscape นี้ไม่ใช่แค่เครื่องมือเทคนิค แต่เป็นการอ่าน “จิตวิทยาตลาด” จากข้อมูลที่สะท้อนการเทรดจริงของผู้เล่นรายใหญ่ผ่านตลาด Options
การฝึกอ่าน Skew และ Term อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เทรดเดอร์พัฒนา Edge ที่แข็งแกร่งในระยะยาว เหนือกว่าผู้เทรดที่ดูแค่ราคาและ IV พื้นฐานเท่านั้น