การคิด Position Sizing และ Risk per Trade

การคิด Position Sizing และ Risk per Trade

ความสำคัญของ Position Sizing

Position Sizing คือการกำหนดขนาดของการเปิดสถานะในแต่ละครั้งอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารเงินทุน (Money Management) และความเสี่ยงที่ยอมรับได้

เป้าหมาย:

  • รักษาพอร์ตให้รอดแม้มีการขาดทุนหลายครั้งติดต่อกัน
  • ป้องกันการล้างพอร์ตจากการเทรดครั้งเดียวที่ผิดพลาด
Position Sizing ที่ดีสำคัญกว่าการคาดเดาทิศทางตลาดให้ถูก

แนวคิด Risk per Trade

Risk per Trade คือการกำหนดเปอร์เซ็นต์ของเงินทุนที่พร้อมเสียได้ในแต่ละเทรด เช่น 1%, 2% ของพอร์ต

ตัวอย่าง:

  • พอร์ต 100,000 บาท
  • Risk per Trade = 2%
  • ยอมเสียได้สูงสุด 2,000 บาทต่อเทรด

ข้อดี:

  • หากขาดทุนติดต่อกัน 10 ครั้ง จะเสียแค่ 20% ของพอร์ต ไม่ล้างพอร์ต

ขั้นตอนการคิด Position Sizing

  1. กำหนด Risk per Trade (% ของพอร์ต)
  2. คำนวณมูลค่าเงินที่พร้อมเสียต่อเทรด
  3. ดู Cost หรือ Margin ที่ใช้ต่อสัญญา Options
  4. คำนวณจำนวนสัญญาที่สามารถเปิดได้โดยไม่เกิน Risk ที่ตั้งไว้

ตัวอย่างการคำนวณ

  • พอร์ต = 100,000 บาท
  • Risk per Trade = 2% = 2,000 บาท
  • เปิด Credit Spread รับ Premium 3,000 บาท ขาดทุนสูงสุด 7,000 บาทต่อสัญญา

คำนวณ:

  • Risk = Max Loss - Premium = 7,000 - 3,000 = 4,000 บาทต่อชุด
  • จำนวนชุดที่สามารถเปิดได้ = 2,000 ÷ 4,000 = 0.5 → เปิดได้แค่ครึ่งชุด (หรือปรับกลยุทธ์ใหม่ให้เหมาะสม)

เทคนิคเพิ่มเติมในการกำหนด Position Sizing

  • ใช้ขนาดที่เล็กลงสำหรับกลยุทธ์ที่มี R/R ต่ำ
  • เพิ่มขนาดเมื่อพอร์ตเติบโต และลดขนาดเมื่อพอร์ตหดตัว
  • ปรับขนาดตามระดับความผันผวนของตลาด (เช่น VIX สูง → ลด Size ลง)

ความผิดพลาดที่พบบ่อย

  • เปิด Size ใหญ่เกินไปเพราะมั่นใจเกินเหตุ
  • ไม่คำนึงถึง Max Loss ที่แท้จริงของ Position (โดยเฉพาะ Spreads)
  • เทรดหนักขึ้นหลังจากขาดทุนเพื่อ “แก้มือ” (Martingale)
การตั้งขนาดการเทรดที่เหมาะสมต้องเป็นระบบที่คำนวณได้ล่วงหน้า ไม่ควรขึ้นอยู่กับอารมณ์ ณ เวลานั้น

สรุป

  • การคิด Position Sizing และ Risk per Trade เป็นพื้นฐานสำคัญในการบริหารพอร์ต
  • วินัยในการควบคุมขนาดการเทรด จะช่วยให้พอร์ตสามารถอยู่รอดและเติบโตได้ในระยะยาว แม้เผชิญช่วงเวลาขาดทุนต่อเนื่อง