การ Hedge และเก็งกำไรด้วย Option

การ Hedge และเก็งกำไรด้วย Option

การ Hedge และเก็งกำไรด้วย Option

ความหมายของ Hedging และ Speculation

  • Hedging: การใช้ Option เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์
  • Speculation: การใช้ Option เพื่อเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาหรือความผันผวน

ทั้งสองแนวทางมีเป้าหมายต่างกัน แต่ใช้เครื่องมือเดียวกันคือ Option


การใช้ Option เพื่อ Hedging

1. Protective Put

  • ซื้อ Put Option เพื่อป้องกันพอร์ตหุ้นที่ถืออยู่
  • ถ้าหุ้นตก → Put เพิ่มมูลค่า ช่วยลดการขาดทุน

2. Covered Call

  • ขาย Call Option บนหุ้นที่ถืออยู่ เพื่อลด Cost Basis
  • ถ้าหุ้นไม่ขึ้น → เก็บ Premium เป็นรายได้เสริม

3. Collar Strategy

  • ซื้อ Put และขาย Call พร้อมกัน
  • จำกัดขาดทุนและจำกัดกำไรในกรอบที่กำหนด
Hedging คือการซื้อประกัน: เสียค่าเบี้ยประกันนิดหน่อยเพื่อแลกกับการนอนหลับสบายในยามพอร์ตผันผวน

การใช้ Option เพื่อเก็งกำไร

1. Long Call / Long Put

  • ซื้อ Call เก็งราคาขึ้น หรือซื้อ Put เก็งราคาลง
  • ข้อดี: ขาดทุนจำกัด กำไรไม่จำกัด

2. Debit Spread (Bull Call Spread / Bear Put Spread)

  • ลดต้นทุนการเก็งกำไร
  • จำกัดขาดทุนและจำกัดกำไร

3. Volatility Play (Straddle / Strangle)

  • ซื้อ Call และ Put พร้อมกันเพื่อเก็งว่าราคาจะขยับแรง (ขึ้นหรือลงก็ได้)
  • ต้องการ IV สูงและการเคลื่อนไหวแรง

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกใช้ Option

  • มุมมองตลาด (ขึ้น, ลง, หรือไม่แน่นอน)
  • ความผันผวนปัจจุบันและที่คาดหวัง
  • ระยะเวลาถือครอง (Time Horizon)
  • ความสามารถในการยอมรับความเสี่ยง (Risk Tolerance)

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้จริง

  • นักลงทุนถือหุ้น A และกังวลการตกกระทันหัน → ซื้อ Protective Put
  • นักลงทุนมองว่าหุ้น B จะ Sideway แต่มี Premium สูง → ขาย Covered Call เก็บรายได้
  • นักลงทุนคาดข่าวใหญ่ → ซื้อ Straddle เพื่อเก็งการเคลื่อนไหวแรง

สรุป

  • การใช้ Option ในการ Hedge และเก็งกำไรต้องมีแผนที่ชัดเจน
  • อย่าใช้ Option อย่างไร้การวางแผน เพราะความผันผวนสามารถสร้างได้ทั้งโอกาสและภัยพิบัติ
  • เข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนของแต่ละกลยุทธ์ ช่วยเสริมสร้างพอร์ตที่มีความยืดหยุ่นและมั่นคง