Post-Mortem Analysis

Post-Mortem Analysis

ความสำคัญของการทำ Post-Mortem Analysis

  • การวิเคราะห์ความผิดพลาดหลังเทรดจบ เป็นกระบวนการที่ช่วยพัฒนาทักษะและลดการทำผิดซ้ำในอนาคต
  • ช่วยให้เข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน และข้อผิดพลาดในกระบวนการคิด, การวางแผน และการบริหารความเสี่ยง
นักเทรดที่ประสบความสำเร็จระยะยาวคือผู้ที่เรียนรู้จากการเทรดทุกครั้ง ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นกำไรหรือขาดทุน

โครงสร้างการทำ Post-Mortem Analysis

1. บริบทของตลาด

  • ตลาดในช่วงนั้นเป็นขาขึ้น, ขาลง หรือ Sideways?
  • มีข่าวหรือเหตุการณ์สำคัญอะไรเกิดขึ้นหรือไม่?

2. เหตุผลในการเลือกกลยุทธ์

  • เลือกกลยุทธ์ตามสภาพตลาดได้ถูกต้องหรือไม่?
  • การวิเคราะห์ IV, Trend, Greek ถูกต้องหรือพลาดตรงไหน?

3. การบริหารความเสี่ยง

  • ขนาด Position เหมาะสมหรือไม่?
  • มีการตั้ง Stop-Loss, Hedge หรือ Adjust อย่างมีวินัยหรือไม่?

4. การบริหารหลังเข้าเทรด

  • มีการปรับตัวตามสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงหรือไม่?
  • การออกจาก Position ตรงตามแผนหรือปล่อยให้ความโลภ/ความกลัวครอบงำ?

5. บทเรียนที่ได้

  • สิ่งที่ทำได้ดีควรทำต่อไปคืออะไร?
  • จุดที่พลาดต้องปรับปรุงอย่างไรในครั้งต่อไป?

ตัวอย่างการทำ Post-Mortem Analysis จริง

เหตุการณ์:

  • เปิด Iron Condor บน SPX ระยะ 30 DTE ขณะ IV สูงปานกลาง
  • ตลาดเกิด Panic Sell รุนแรง ทำให้ราคาทะลุขอบขา Put อย่างรวดเร็ว

ผลลัพธ์:

  • ขาดทุนเต็มที่ที่ขา Put Side เพราะไม่มีการ Adjust หรือ Cut Loss ทันเวลา

วิเคราะห์:

  • ประเมินตลาดผิด ไม่ได้คำนึงถึงความเสี่ยง Event ที่อาจเกิด Panic Sell
  • ขาดแผน Adjust ล่วงหน้า และไม่มี Stop-Loss ที่ชัดเจนสำหรับกรณีฉุกเฉิน

บทเรียน:

  • ต้องเช็คปฏิทินข่าวสารเสมอ
  • วางแผน Adjust หรือปิด Position ทันทีเมื่อ Delta ของขาขาใดข้างหนึ่งเกิน Threshold

เทคนิคเสริมในการทำ Post-Mortem ให้ได้ผล

  • บันทึกทุกเทรดโดยละเอียด (Journaling)
  • แยกการวิเคราะห์ Process และ Outcome → อย่าโฟกัสที่กำไร/ขาดทุนอย่างเดียว
  • หาความผิดพลาดเชิงระบบ เช่น พฤติกรรมซ้ำ ๆ ที่ต้องแก้ไข ไม่ใช่แค่เหตุการณ์เฉพาะหน้า
Post-Mortem ที่มีคุณภาพเปลี่ยนทุกเทรดเป็นบทเรียน และเปลี่ยนเทรดเดอร์ธรรมดาเป็นมืออาชีพได้

สรุป

  • Post-Mortem Analysis คือการสะท้อนความคิดและกระบวนการที่ใช้ในการเทรด เพื่อนำมาพัฒนาตัวเอง
  • การวิเคราะห์ที่ดีต้องเน้นไปที่การวางแผน, การตัดสินใจ และการบริหารความเสี่ยง มากกว่าผลลัพธ์สุดท้าย
  • นักเทรดที่เรียนรู้จากทุกประสบการณ์ จะมีโอกาสประสบความสำเร็จในระยะยาวสูงกว่าคนที่เทรดแบบไร้ระบบ