กลยุทธ์ BuyWrite กับ SPY

ทำไมต้องเลือก SPY สำหรับพอร์ตขนาดเล็ก?

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้าง รายได้สม่ำเสมอเป็นเงินสด จากพอร์ตการลงทุน กลยุทธ์ที่ใช้ SPY ETF แทน SPX Index เป็นทางเลือกยอดนิยม โดยเฉพาะกับบัญชีขนาดเล็ก เพราะ:

• SPY คือ ETF ที่ติดตามดัชนี S&P 500
• มูลค่า SPY ประมาณ 10% ของ SPX
• ออปชันของ SPY จึงมีราคาประมาณ 10% ของ SPX Options
• ทำให้สามารถใช้กลยุทธ์ออปชันแบบเดียวกันกับ SPX ได้ ด้วยเงินทุนที่น้อยลง

สำหรับบัญชีขนาดเล็ก SPY เป็นทางเลือกที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า SPX ทั้งในด้านราคาหุ้นและราคาของออปชัน

กลยุทธ์ BuyWrite คืออะไร?

BuyWrite หรือที่รู้จักกันว่า Covered Call คือการ:

1. ซื้อหุ้น (เช่น SPY จำนวน 100 หุ้น)
2. ขาย Call Option จำนวน 1 สัญญา (ซึ่งควบคุมหุ้น 100 หุ้น)

โดยทั่วไปจะเลือก Call Option ที่:

• มีวันหมดอายุในเดือนถัดไป (มักเป็นวันศุกร์ที่ 3 ของเดือน)
• มี Premium อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของ 1% ของราคาหุ้น SPY

ผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นในวันหมดอายุ

กรณีที่ราคาหุ้น ต่ำกว่า Strike Price

• Call Option จะหมดอายุ ไร้มูลค่า
• นักลงทุนเก็บ Premium เต็มจำนวน
• ยังคงถือหุ้น SPY ไว้ → สามารถตั้ง BuyWrite ใหม่ในเดือนถัดไป

กรณีที่ราคาหุ้น สูงกว่า Strike Price

• หุ้นจะถูกขายอัตโนมัติที่ราคา Strike (Assignment)
• นักลงทุนได้กำไรจาก:
  • Premium จากการขาย Call
  • กำไรจากการขายหุ้นหากราคาซื้อต่ำกว่า Strike
• เดือนถัดไปต้องซื้อหุ้นคืนใหม่เพื่อเทรดรอบใหม่

ตัวอย่าง: ผลลัพธ์จากการทำ BuyWrite กับ SPY ระยะเวลา 1 ปี

15 ก.ย. 2023 – 20 ก.ย. 2024

กำไรสุทธิรวมทั้งปี

• รวมกำไร: $25,534
• ไม่รวมเงินปันผลจาก SPY ซึ่งยังเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง
• บางเดือนได้แค่ Premium → Passive Income
• บางเดือนได้ทั้ง Premium และ Capital Gain จากหุ้น

สรุปกลยุทธ์ BuyWrite

หมายเหตุเพิ่มเติม

• ต้องมีหุ้น SPY ครบ 100 หุ้นต่อการขาย Call 1 สัญญา
• หากหุ้นถูกขายในเดือนใด → ต้องใช้ทุนซื้อหุ้นคืนในเดือนถัดไป
• เลือก Strike Price ให้เหมาะสมกับความเสี่ยง/ผลตอบแทนที่ยอมรับได้
• นักเทรดมืออาชีพนิยมใช้กลยุทธ์นี้ร่วมกับการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและการบริหารพอร์ต