Probability and Expected Value
Probability and Expected Value
ความน่าจะเป็น (Probability) คืออะไร?
Probability คือ โอกาสที่เหตุการณ์หนึ่งจะเกิดขึ้น
วัดออกมาเป็นตัวเลขระหว่าง 0 ถึง 1 หรือ 0% ถึง 100%
ในตลาด Option การวิเคราะห์ Probability คือการประเมินโอกาสที่ Option จะจบลงแบบ ITM (In the Money)
มูลค่าที่คาดหวัง (Expected Value) คืออะไร?
Expected Value (EV) คือ การคำนวณมูลค่าเฉลี่ยที่คาดว่าจะได้จากการลงทุน
โดยคำนึงถึงทั้ง กำไร/ขาดทุน และ โอกาสที่จะเกิด
สูตรพื้นฐาน:
Expected Value = (โอกาสได้กำไร × จำนวนกำไร) - (โอกาสขาดทุน × จำนวนขาดทุน)
ความสำคัญของ Probability และ Expected Value ในการเทรด Option
- ช่วยเลือกดีลที่ “คุ้มค่า” ไม่ใช่แค่ลุ้นถูกทาง
- ช่วยหลีกเลี่ยงดีลที่มีโอกาสได้กำไรน้อยแต่ขาดทุนหนัก
- ใช้ในการบริหารพอร์ตระยะยาวอย่างมีเหตุผล
ตัวอย่าง: คำนวณ EV ใน Option
คุณซื้อ Call Option:
- Premium 5 บาท
- Strike 100 บาท
- ราคาตลาดตอนนี้ 98 บาท
- ประเมินว่ามีโอกาส 40% ที่หุ้นจะขึ้นไปเกิน 105 บาทใน 1 เดือน
สมมติถ้าขึ้นถึง 105 บาท → กำไรหลังหัก Premium = (105 - 100) - 5 = 0 บาท (เสมอทุน) ถ้าขึ้นเกิน 110 บาท → กำไรหลังหัก Premium = (110 - 100) - 5 = 5 บาท
ประเมิน EV:
- EV = (0.4 × กำไร) - (0.6 × ขาดทุน)
- EV = (0.4 × 5) - (0.6 × 5)
- EV = (2) - (3)
- EV = -1
→ ค่า EV ติดลบ = ดีลนี้ไม่คุ้มที่จะเล่นในระยะยาว
ตัวอย่างชีวิตจริง: ใบจองคอนโด
คุณซื้อใบจองคอนโด 50,000 บาท
ประเมินว่า:
- มีโอกาส 30% ราคาห้องจะขึ้นเกิน 3.3 ล้านบาท (กำไร 300,000 บาท)
- มีโอกาส 70% ที่ราคาจะไม่ขยับ (ขาดทุนเบี้ยจอง)
คำนวณ EV:
- EV = (0.3 × 300,000) - (0.7 × 50,000)
- EV = (90,000) - (35,000)
- EV = 55,000
→ EV เป็นบวก แปลว่าดีลนี้คุ้มในเชิงความน่าจะเป็น
สรุปแนวคิด
- โอกาสสูง ≠ ดีเสมอ → ต้องคำนวณ Expected Value ด้วย
- EV บวก → เป็นดีลที่น่าทำในระยะยาว
- EV ลบ → แม้ดูมีโอกาสชนะเยอะ แต่สุดท้ายอาจขาดทุนหากทำซ้ำหลายครั้ง
สรุปเนื้อหา
- Probability คือโอกาสที่เหตุการณ์เกิดขึ้น
- Expected Value คือมูลค่าที่คาดว่าจะได้ในระยะยาว
- การตัดสินใจเทรด Option ควรพิจารณาทั้ง Probability และ EV ร่วมกัน เพื่อสร้างโอกาสกำไรที่ยั่งยืน