Bear Put Spread

Bear Put Spread

Bear Put Spread เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในสถานการณ์ที่นักเทรดมีมุมมองว่าราคาสินทรัพย์จะปรับตัวลดลงในช่วงเวลาที่กำหนด
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็งกำไรขาลงแบบจำกัดความเสี่ยง โดยใช้ประโยชน์จากการซื้อ Put Option พร้อมลดต้นทุนด้วยการขาย Put อีกขาหนึ่ง


โครงสร้างของกลยุทธ์

  • ซื้อ Put Option ที่มี Strike Price สูงกว่า
  • ขาย Put Option ที่มี Strike Price ต่ำกว่า
  • ทั้งสอง Option ต้องมี วันหมดอายุเดียวกัน

กลยุทธ์นี้จะมี Net Debit ซึ่งเป็นต้นทุนสูงสุดของ Position และเป็นความเสี่ยงสูงสุดที่นักเทรดยอมรับได้


Payoff Diagram

Bear Put Spread Payoff Diagram

อธิบาย Payoff Diagram

  • Buy 1 Put @ $50
  • Sell 1 Put @ $45
  • ค่า Premium สุทธิที่จ่าย = $1.00 ➜ Max Loss = $100
  • ส่วนต่างระหว่าง Strike = $5 ➜ Max Profit = $5 - Premium = $400
  • Break-Even = $49

วิเคราะห์ผลตอบแทน

ราคาหุ้น ณ วันหมดอายุสถานะของ Put ที่ $50สถานะของ Put ที่ $45กำไร/ขาดทุนสุทธิ
ต่ำกว่า $45ได้กำไรเต็ม $5ขาดทุนเต็ม $5กำไรสุทธิ $400
เท่ากับ $49ได้กำไร $1ไม่มีค่าคุ้มทุน (Break-Even)
เท่ากับ $50ไม่มีค่าไม่มีค่าขาดทุนเต็ม $100
มากกว่า $50ไม่มีค่าไม่มีค่าขาดทุนสูงสุด $100

สรุปแนวคิดของกลยุทธ์

  • ต้องการให้ราคาหุ้น “ต่ำกว่า Strike ที่ขาย” เพื่อได้กำไรสูงสุด
  • ถ้าราคาหุ้นไม่ลง ➜ ขาดทุนจะถูกจำกัดไว้ตาม Premium ที่จ่าย
  • ใช้ได้ดีเมื่อมั่นใจว่าราคาหุ้นจะลดลงในระยะเวลาหนึ่ง
Bear Put Spread เหมาะกับนักลงทุนที่มีมุมมองขาลงและต้องการจำกัดความเสี่ยง
เหมาะกับการเก็งกำไรในตลาดปรับฐานหรือลงระยะสั้น

พฤติกรรมและการวิเคราะห์ Greek

  • Delta: ค่าลบ → มุมมองขาลง
  • Theta: เป็นลบ → เสียจาก Time Decay ทุกวันที่ถือครอง
  • Vega: เป็นบวก → ได้ประโยชน์หาก IV เพิ่มขึ้น
  • Gamma: ปานกลาง → Delta เปลี่ยนเร็วขึ้นเมื่อราคาลง

เหมาะสำหรับใช้ในช่วงที่ตลาดมีแนวโน้มเป็นขาลง และ IV มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น


เทคนิคการตั้งค่า (Tuning & Optimization)

  • เลือก Strike Price ให้ Put ที่ซื้อนั้นอยู่ ATM หรือ ITM เล็กน้อย
  • เลือก Expiration ที่ไม่ใกล้จนเกินไป เช่น 30-45 วัน เพื่อให้มูลค่าของ Option ยังไม่เสื่อมเร็วเกิน
  • เน้นการใช้ในสภาวะตลาดขาลงที่มี Catalyst เช่น ข่าวลบ, ตัวเลขเศรษฐกิจที่แย่, หรือแนวโน้มเชิงเทคนิค

ตัวอย่างจริง (Case Study: กำไร + ขาดทุน)

สถานการณ์: หุ้น ABC ปัจจุบันอยู่ที่ $100 และคาดว่าจะลงไปที่ $90 ภายในเดือนหน้า

  • ซื้อ Put Option ที่ Strike $100 ราคา Premium $4
  • ขาย Put Option ที่ Strike $90 ราคา Premium $1.5

Net Debit = $4 - $1.5 = $2.5

ผลลัพธ์ ณ วันหมดอายุ:

  • หากราคาหุ้น = $90 หรือต่ำกว่า → กำไรเต็ม = ($100 - $90) - $2.5 = $7.5
  • หากราคาหุ้น = $95 → กำไร = ($100 - $95) - $2.5 = $2.5
  • หากราคาหุ้น ≥ $100 → ขาดทุนเต็ม = $2.5

ข้อดี / ข้อเสียของกลยุทธ์

ข้อดี:

  • เหมาะกับตลาดขาลงแบบมีเป้าหมาย
  • กำไรสูงกว่าการซื้อ Put อย่างเดียวหากราคาอยู่ในช่วงที่เหมาะ
  • จำกัดความเสี่ยง (Net Debit เท่านั้น)

ข้อเสีย:

  • เสียจาก Time Decay ทุกวัน (Theta ลบ)
  • ขาดทุนเต็มหากราคาหุ้นไม่ลด
  • ต้องเลือก Strike ให้แม่นเพื่อให้คุ้มค่าต่อ Premium ที่จ่าย

Adjusting a Bear Put Debit Spread

Bear Put Debit Spread เป็นกลยุทธ์ที่มีเวลาจำกัดในการทำกำไร โดยต้องการให้ราคาหุ้นลดลงเร็วพอ
แต่หากราคาหุ้นไม่ลดลงหรือฟื้นตัวขึ้น กลยุทธ์นี้อาจขาดทุนได้อย่างรวดเร็ว

หนึ่งในวิธีปรับคือ เพิ่ม Bull Call Debit Spread ที่ Strike เดียวกันและวันหมดอายุเดียวกัน
เพื่อเปลี่ยนเป็นกลยุทธ์ Reverse Iron Butterfly ซึ่งสามารถทำกำไรได้หากราคาหุ้นเด้งขึ้นต่อ

ตัวอย่าง:

  • เดิมถือ Bear Put Spread:

    • Buy Put @ $50
    • Sell Put @ $45
  • เพิ่ม:

    • Buy Call @ $50
    • Sell Call @ $55
    • สมมติค่า Premium ของ Call Spread = $2.00
      ➜ เพิ่มต้นทุนอีก $200 และลด Max Profit ลง

Bear Put Spread Adjust to Reverse Iron Butterfly

ผลลัพธ์:

  • สามารถทำกำไรได้ทั้งในกรณีราคาลงหรือขึ้น
  • ความเสี่ยงขยาย ➜ Max Loss มากขึ้น
  • จุดคุ้มทุนกว้างขึ้น ➜ $47 และ $53

Rolling a Bear Put Debit Spread

หากราคาหุ้นยังไม่ขยับลง และใกล้หมดอายุ
สามารถ Roll กลยุทธ์ไปเดือนถัดไปเพื่อยืดเวลาในการรอราคาเคลื่อนไหว

ขั้นตอน:

  1. Sell-to-Close สถานะเดิม
  2. Buy-to-Open สถานะใหม่ที่วันหมดอายุถัดไป

ตัวอย่าง:

  • เดิมถือ Bear Put Spread (March) และใช้ต้นทุน $1.00
  • Roll ไป April โดยจ่ายเพิ่มอีก $1.00 ➜ ต้นทุนรวมเพิ่ม
    • Max Profit ลดลง
    • Max Loss เพิ่มขึ้น
    • Break-Even ใหม่ = $48

Bear Put Spread - Roll


Hedging a Bear Put Debit Spread

หากราคาหุ้นปรับขึ้นต่อ และต้องการป้องกันขาดทุน
สามารถเพิ่ม Bull Call Spread ที่ Strike เดียวกันและวันหมดอายุเดียวกัน

  • เปลี่ยนสถานะให้คล้าย Long Butterfly
  • ได้กำไรหากราคาหุ้นเคลื่อนไหวกลับขึ้น
การเฮดจ์หรือปรับ Bear Put Spread ด้วย Bull Call Spread
ช่วยให้สถานะมีโอกาสทำกำไรทั้งสองทิศทาง แต่จะเพิ่มต้นทุนและขยายจุดคุ้มทุน
เหมาะกับนักเทรดที่ต้องการความยืดหยุ่น และรับมือกับตลาดที่เปลี่ยนทิศ

สรุป

Bear Put Spread เป็นกลยุทธ์ขาลงที่เหมาะกับผู้ที่มีมุมมองว่าตลาดจะปรับลดลงภายในกรอบเวลาที่ชัดเจน
สามารถใช้เพื่อเก็งกำไรหรือ Hedge พอร์ตในช่วงที่ตลาดมีสัญญาณเชิงลบได้อย่างมีประสิทธิภาพ