Short Straddle

กลยุทธ์ Short Straddle คืออะไร

Short Straddle เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากตลาดที่ไม่มีความผันผวน (Sideways) โดยเปิดสถานะด้วยการ ขาย Call และ Put Option ที่ Strike เดียวกัน และวันหมดอายุเดียวกัน

นักลงทุนจะได้กำไรสูงสุดหากราคาหลักทรัพย์อยู่ใกล้ Strike ณ วันหมดอายุ เนื่องจากจะทำให้ Option ทั้งสองฝั่งหมดมูลค่า (Expire Worthless)


โครงสร้างของกลยุทธ์ Short Straddle

  • Sell 1 Call Option @ Strike $100
  • Sell 1 Put Option @ Strike $100
  • Premium รวม = $10
  • Break-Even = $90 และ $110
  • Max Profit = Premium รวม = $1,000
  • Max Loss = ไม่จำกัด (ทั้งสองทาง)

การวิเคราะห์ผลตอบแทน

ราคาหุ้น ณ วันหมดอายุกำไรจาก Callกำไรจาก Putกำไรสุทธิ
$80$0-$20-$10 (ขาดทุน)
$90$0-$10$0 (Break-Even)
$100$0$0$10 (Max Profit)
$110-$10$0$0 (Break-Even)
$120-$20$0-$10 (ขาดทุน)

Payoff Diagram

Short Straddle Payoff Diagram


พฤติกรรมและการวิเคราะห์ Greek

Delta: เป็นกลางเมื่อเริ่มต้น

  • เพราะ Call และ Put มีค่า Delta ตรงข้ามกัน จึงเริ่มต้นใกล้ศูนย์
  • เมื่อราคาขยับ ➜ Delta จะเบ้ไปข้างหนึ่ง

Gamma: สูงและติดลบ

  • การเคลื่อนไหวของ Delta รุนแรงเมื่อราคาเข้าใกล้ Break-Even
  • ทำให้ตำแหน่งเสี่ยงสูงขึ้นหากราคาเริ่ม Break Out

Vega: ติดลบ

  • Short Straddle ได้ประโยชน์เมื่อ Volatility ลดลง
  • ถ้า IV เพิ่ม ➜ Option แพงขึ้น ➜ ขาดทุน

Theta: บวก

  • ได้กำไรจาก Time Decay (ทุกวัน)
  • เหมาะกับตลาดนิ่งที่ราคาไม่วิ่ง

เทคนิคการตั้งค่า (Tuning & Optimization)

1. เลือก Strike ที่อยู่ At-The-Money (ATM)

  • เพื่อให้ Delta เป็นกลางและได้ Premium สูงสุด

2. เลือกวันหมดอายุสั้นถึงกลาง (7-30 วัน)

  • เพื่อใช้ประโยชน์จาก Theta และลดความเสี่ยงจาก Vega

3. ใช้ IV Rank สูง

  • เปิด Short Straddle เมื่อ IV สูง ➜ ขาย Option ได้แพง ➜ ได้ Premium สูง

4. จัดการขนาดพอร์ตอย่างรัดกุม

  • เนื่องจาก Max Loss ไม่จำกัด ➜ ต้องมี Stop-Loss หรือ Hedge

จุดเด่นของกลยุทธ์

  • ได้รับ Premium สูงสุดเมื่อเทียบกับกลยุทธ์ Option แบบอื่น
  • ได้กำไรจาก Time Decay (Theta บวก)
  • ใช้ประโยชน์จากตลาดนิ่งหรือลดความผันผวน (Volatility Contraction)
  • เหมาะสำหรับช่วงที่ IV สูงและราคาคาดว่าไม่เคลื่อนไหวมาก

ข้อควรระวัง

  • ความเสี่ยงไม่จำกัดทั้งด้านบนและด้านล่าง
  • ต้องมีการบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวด เช่น ใช้ Stop-Loss หรือ Hedge
  • ไม่เหมาะในช่วงที่มีข่าวสำคัญหรือคาดการณ์การเคลื่อนไหวรุนแรงของราคา
  • ต้องติดตามพอร์ตอย่างใกล้ชิด เพราะการ Break Out เล็กน้อยสามารถเปลี่ยนกำไรเป็นขาดทุนได้อย่างรวดเร็ว

Adjust Short Straddle

หากราคาหลุดกรอบและมุ่งหน้าไปทางใดทางหนึ่ง:

  • สามารถ Roll ฝั่งที่เสียเปรียบให้เข้าใกล้ราคาปัจจุบัน เพื่อรับ Credit เพิ่ม
  • หรือแปลงสถานะเป็น Inverted Straddle หรือ Broken-Wing Butterfly เพื่อลดความเสี่ยงบางด้าน

1. Adjust to Inverted Straddle

  • เช่นเดิม Short Call และ Put @ 100 รับ Credit $10
  • ปรับ: Roll Short Put ขึ้นไปที่ 105 ➜ Inversion = $5
  • รับ Credit เพิ่มอีก $1 ➜ Max profit ใหม่ $600 ถ้าราคาอยู่ $100-$105

Short Straddle Adjusted to Inverted Straddle

2. Adjust to Broken-Wing Butterfly (ฝั่งเดียว)

  • เพิ่ม Long Option ฝั่งเดียวเพื่อจำกัดขาดทุนด้านเดียว

Short Straddle Adjusted to Broken-Wing Butterfly Left

Short Straddle Adjusted to Broken-Wing Butterfly Right


Rolling a Short Straddle

หากใกล้หมดอายุและราคายังอยู่ในกรอบ ➜ สามารถ Roll สถานะไปเดือนถัดไปเพื่อรับ Credit เพิ่ม:

  • ซื้อคืน Straddle ปัจจุบัน (BTC)
  • เปิด Short Straddle ใหม่ที่ Strike เดิม วันหมดอายุใหม่ (STO)
  • รับ Credit ใหม่ ➜ ขยายช่วงกำไรและลด Break-Even Risk

Short Straddle Rolled


Hedging a Short Straddle (Refine a risk)

หากราคาวิ่งแรงและเข้าใกล้ขาดทุน:

  • ซื้อ Option ฝั่งตรงข้ามเพื่อจำกัดขาดทุน ➜ เปลี่ยนเป็น Credit Spread หรือ Broken-Wing Butterfly

ตัวอย่าง:

  • Short Straddle @ 100, รับ Credit $10
  • หากราคาขึ้น: Buy Call @ 110 ➜ Max Loss ด้านบน = Spread Width - Credit ($500)

Short Straddle Adjusted to Broken-Wing Butterfly Left

  • หากราคาลง: Buy Put @ 90 ➜ Max Loss ด้านล่าง = Spread Width - Credit ($500)

Short Straddle Adjusted to Broken-Wing Butterfly Right


Short Straddle เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในตลาดนิ่ง หรือช่วงเวลาที่คาดว่า Volatility จะลดลง โดยมีจุดแข็งที่ Theta บวก และได้ Credit สูง แต่ต้องบริหารความเสี่ยงให้ดี เพราะการขาดทุนไม่จำกัด